วันพฤหัสบดีที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2550

วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2550

Falling Images, MySpace Codes, MySpace Layouts, MySpace Glitter Graphics from DressUpMySpace.com

เล่นเกมแก้เครียดก้านน้า..................

PAGE DES JEUX
JEUX EN LIGNE [เกมส์ออนไลน์]


Question pour un champion : http://www.tv5.org/TV5Site/qpuc

Jeux sur Disney & Winnie l'Ourson, et etc. : http://www.merveilleux.ca

Jeux de Radio-canada : http://radio-canada.ca/jeunesse/jeux

Jeux avec le Petit Prince : http://www.lepetitprince.com/jeux/index.php

Toojeux : http://www.toojeux.com

Les Jeux d'Enfants (Les trésors de Catherine) : http://www.tresors.ca

Jeux TV-REVEIL online : http://www.tv-reveil.com

Snackers and ladder : http://www.usinaquiz.ovh.org/jeux/serpent/sal.htm Le serpent infernal (เจ้างูน้อย)

Jouez avec Planète Québec : http://planete.qc.ca/jeux

Vieux Jeux d'Arcade en ligne gratuits : http://www.1980-games.com

Jeux Gratos : http://www.jeuxgratos.net

**


วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2550














ไม่ด้ายมาอัพซะนาน....

หมวดเสื้อผ้านะ

* un vêtement sur mesure = เสื้อผ้าวัดตัวตัด
un vêtement prêt-à-porter = เสื้อผ้าสำเร็จรูป
* un vêtement à la mode = เสื้อผ้าทันสมัย
* un vêtement démodé = เสื้อผ้าล้าสมัย
* un vêtement d'homme (de femme), (d'enfant) = เสื้อผ้าชาย (หญิง), (เด็ก)
* un vêtement unisexe = เสื้อผ้าชายหญิง
* un sous-vêtement = ชุดชั้นใน
* un vêtement, un habit, un costume, une tenue = เสื้อผ้า, ชุด
* une toilette, une toilette d'été = เสื้อผ้าสตรี
* le linge (laver, repasser le linge) = (เสื้อ)ผ้า (ซัก, รีดเสื้อผ้า)
* des fringues (fam.) = เสื้อผ้า
un bijou, un joyau, une parue = เครื่องประดับ
- un collier = สร้อยคอ
- un pendentif = จี้
- un bracelet = สร้อยข้อมือ
- une bague = แหวน
- une boucle d'oreilles = ต่างหู
- une broche = เข็มกลัดติดเสื้อ
- un anorak = เสื้อสกี
- une blouse = เสื้อสตรี, ชุดใส่กันเปื้อน เช่นชุดพยาบาล
- un blouson = เสื้อแจ็กเกต
- des bas = ถุงน่อง, ถุงเท้ายาว
- un bustier = ชุดสตรีแบบยกทรงไม่มีสาย
- un bermuda = กางเกงขาสั้นแบบยาวถึงเข่า
- un béret = หมวกเบเร่
- un bonnet = หมวก(แบบไม่มีขอบ)
- des bottes = รองเท้าบูต

วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550

สำนวน....

Avoir un nom à coucher dehors. » : Avoir un nom très difficile à prononcer et / ou à retenir. [มีชื่อที่ออกเสียงยาก หรือ จำได้ยาก]

« Avoir du chien. » : Pour une femme, avoir un charme un peu canaille, du sex-appeal. [สำหรับผู้หญิง : มีเสน่ห์แบบยั่วๆนิดหน่อย]

« Aller à vau - l'eau. » : Aller à sa perte, péricliter. [ไปสู่ความสูญเสีย, ตกอยู่ในอันตราย]


« L' avoir dans le baba. » : Se faire avoir, Rater quelque chose, Subir un échec. [โดนหลอก, ล้มเหลว]

« Avoir du pain sur la planche. » : Avoir beaucoup de travail, de tâches à accomplir. [มีงานมากที่ต้องทำให้เสร็จ]

« Au diable vauvert. » : Extrêmement loin. [ไกลสุดๆ, ไกลมาก ]


« Avoir le cafard. » : Avoir des idées noires, être déprimé. [เศร้า, ไม่สบายใจ, ท้อแท้]

« Avoir la science infuse. » : Savoir sans avoir appris. / Prétendre tout savoir. [รู้เอง, อ้างว่ารู้ทุกเรื่อง]

« Avoir les boules. » : Être très énervé, En avoir assez, Avoir peur. [หงุดหงิด, เบื่อ, กลัว]

« As de pique. » : Personne à l'apparence bizarre ou mal habillée. [คนที่มีลักษณะแปลกๆ หรือ แต่งตัวไม่ดี]

วันศุกร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2550

น่ารักจัง




น่าเศร้าชะม้าดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ..ง่วงๆๆ

วันนี้เรียนฝรั่งเศสโครตง่วงเย้ยอ่ะ.............จ้าหลับก้อหลับม้ายด้ายม่ายงั้นด้ายโดด อ.เกรียงโบกแน่ๆๆเย้ย.........(ถ้าเปนวิชาอื่นอาจงีบด้ายบ้าง) ปล.วิชานี้โหดอย่าเสี่ยงถ้าไม่อยาก..........................ไปคิดเองแหละก้านคร้าบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2550

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2550

มารู้จักเล ฟรุย ของฝรั่งเศสก้านดีกว่า


Les fruits [n.m.]
เล ฟรุย
ผลไม้



marron [n.m.]
มา-รง
ผลเกาลัด

melon [n.m.]
เมอ-ลง
แตงเมล่อน

melon d'eau / pastèque [n.f.]
เมอ-ลง โด / ปาส-แตก(เกอ)
แตงโม

มะกอก

orange [n.f.]
โอ-รอง(เชอ)
ส้ม

pamplemousse [n.m.]
ปอง-เปลอ-มูส(เซอ)
ส้มเกลี้ยง

pastèque [n.f.]
ปาส-แตก(เกอ)
แตงโม

pêche [n.f.]
แปช(เชอ)
ลูกพีช (ผลท้อ)

poire [n.f.]
ปัว(เรอ)
ผลสาลี่

ข้อมูลทั่วไปของฝรั่งเศส

ช้อปปิ้ง
น้ำหอม นักท่องเที่ยวทั่วไปนิยมซื้อน้ำหอมยี่ห้อที่ฝรั่งเศสเป็นต้นตำรับ ซึ่งราคาจะถูกกว่าที่นำมาขายในต่างประเทศมาก เมืองที่มีชื่อเสียงในการผลิตหัวน้ำหอมกลิ่นต่างๆ ได้แก่เมืองนีส คานส์ ริเวียร่า เป็นต้น ยี่ห้อน้ำหอมที่ขึ้นชื่อที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าตำรับได้แก่ Christian Dior และน้ำหอมของ Caron, Givenchy, Rochas, Guerlain, Paco Rabanne เป็นต้น
เสื้อผ้าและสินค้าแฟชั่น ฝรั่งเศสมีชื่อเสียงมากโดยเฉพาะศูนย์รวมของดีไซเนอร์ชื่อดัง และเป็นต้นฉบับของแฟชั่นทั่วโลก
เครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์
ฝรั่งเศสมีชื่อด้านนี้อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ การเป็นแหล่งผลิตของไวน์ และแชมเปญที่สำคัญที่สุดของโลกในปัจจุบัน
ไวน์ (Vin) หรือเหล้าองุ่นเริ่มผลิตขึ้นในฝรั้งเศสเป็นครั้งแรกตั้งแต่ยุคโรมัน โดยกองทัพโรมันที่เข้าปราบปรามอนารยชนได้นำวิธีการทำเหล้าองุ่นมาเผยแพร่และได้สืบทอดการทำไร่องุ่น และเหล้าไวน์มาจนปัจจุบัน ในหมู่นักดื่มไวน์นั้น ถือว่าไวน์ฝรั่งเศสเป็นไวน์ที่ดีทีสุดในโลก แหล่งผลิตไวน์ที่ขึ้นชื่อไดแก่ บอร์โดซ์ (Bordeux) เบอร์กันดี ชองปาญ อัลซาส ลัวร์ โรน โพรวองซ์ จูราและซาวอย และทางตอนใต้สุดของประเทศ
ไวน์แบ่งออกเป็น 3 สี คือ ไวน์ขาว (Blanc) ไวน์แดง (Rouge) และไวน์สีชมพู (Rose) โดยทั่วไปจะนิยมไวน์ขาว และไวน์แดง แต่ไวน์สีชมพูจะไม่เป็นที่นิยมและมักถือว่าเป็นไวน์ที่ดื่มเล่นๆเสียมากกว่า
รสชาติของไวน์นั้นจะแบ่งออกเป็น
But = ธรรมดา, Sec = หวานเล็กน้อย, Demi-sec = หวาน, Doux = หวานมาก
คุณภาพของไวน์ที่ผลิตในฝรั่งเศสนั้นรัฐจะควบคุมให้ได้มาตรฐาน โดยแบ่งออกเป็น 4 ลำดับขั้น คือ
1) Appellation d'Origine Controlee (AOC) เป็นไวน์ที่แจ้งรายละเอียดการผลิต ที่ผลิต การบรรจุขวด การบ่มไวน์อย่างละเอียดบนป้ายฉลาดขวด เป็นไวน์คุณภาพสูง และสามารถมีราคาสูงได้เป็นพันเป็นหมื่นบาทขึ้นอยู่กับปีที่ผลิตเป็นสำคัญ
2) Vins Delimite de Qualite Superieure (VDQS) เป็นไวน์คุณภาพสูง เช่นเดียวกับไวน์ที่มี AOC ต่างกันตรงเป็นไวน์ที่ผลิตจากแหล่งใดแหล่งหนึ่งหรือสถานที่แห่งหนึ่งเป็นพิเศษ ซึ่งสถานที่นั้นๆได้รับการรับรองว่าผลิตไวน์ได้คุณภาพ เช่นไวน์จากบอร์โดซ์ ซึ่งจะบรรจุขวดรูปทรงไม่เหมือนกับไวน์ที่อื่นๆ ไวน์แบบนี้มีราคาสูงเช่นกัน
3) Vin de Pays หรือไวน์ท้องถิ่น ราคาไม่ค่อยแพง คุณภาพปานกลางมักเสิร์ฟตามร้านอาหารทั่วไป
4) Vin De Table หรือไวน์ธรรมดาๆ คุณภาพปานกลาง มักเสิร์ฟตามร้านอาหารแบบชาวบ้านโดยใส่มาเป็นเหยือก (carafe)
องุ่นต่างพันธุ์จะให้รสชาติของไวน์ที่ต่างกันไป ชื่อพันธุ์องุ่นจะถูกบ่งบอกไว้ที่ขวดด้วย พันธุ์องุ่นที่กล่าวกันว่าดี ให้ไวน์รสกลมกล่อม นุ่มละมุนเป็นที่นิยมกันก็ คือ
pinot noir, pinot gris, pinot blanc, muscat, riesling, cabernet sauvignon, cabernet franc, merlot, petit verdot, malbec, muscadet, sauvignon, chenin blanc, gamay
นอกจากนี้ยังมีประเภท เครื่องสำอาง, กระเป๋าและเครื่องหนัง, ผ้าลูกไม้ฝรั่งเศส
อาหารการกิน
ในสมัยก่อนคนฝรั่งเศสสามัญชนโดยเฉพาะในชนบท จะถืออาหารกลางวันเป็นอาหารหลัก ส่วนในราชสำนักจะถือมื้อเย็นเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบันเวลาอาหารปกติ คือ กลางวัน 12.00-14.00 น. เย็น 20.00-22.00 น.
เพราะฉะนั้นตามเมืองใหญ่ๆ โดยเฉพาะปารีสร้านอาหารอาจเปิดประมาณ 11.30 น. ถึง บ่าย 2 โมง และเปิดอีกครั้งเวลา หนึ่งทุ่มไปจนถึงเที่ยงคืน บางร้านอาจเปิดไปจนถึงตีสองหรือตีสามเพื่อรับนักท่องเที่ยวราตรีโดยเฉพาะ
อาหารเย็นแบบเต็มยศ จะประกอบด้วยอาหารตั้งแต่ 6 จาน (คอร์ส) ขึ้นไป เสิร์ฟไวน์ตลอดเวลา ไม่นิยมเครื่องดื่มชนิดอื่นระหว่างรับประทานอาหารนอกจากน้ำหากไม่ดื่มไวน์
ภัตตาคารที่หรูหราจะเสิร์ฟอาหารแบบเต็มยศ ซึ่งจะสั่งเพียง 2 หรือ 3 คอร์สก็ได้ การสั่งอาหารในภัตตาคารหรูจะเรียงลำดับดังนี้
1. Aperitif (เหล้า หรือ เครื่องดื่มสำหรับจิบเรียกน้ำย่อย)
2. Entree และ/หรือ ออร์เดิร์ฟ (อาหารจานแรก อาจมีซุปต่ออีกคอร์สก็ได้)
3. Plat Pricipal (อาหารจากหลัก)
4. Salade (สลัดเสิร์ฟเคียงกับอาหารจานหลัก)
5. Fromage (เนยแข็งชนิดต่างๆ วางบนถาดไม้)
6. Dessert (ของหวาน)
7. Fruit (ผลไม้)
8. Cafe หรือ The (กาแฟ หรือ ชา)
9. Degestif (เหล้าหลังอาหาร)
รูปแบบของอาหาร ได้มีการแบ่งรูปแบบอาหารออกเป็นลำดับชั้น คือ
1. Haute Cuisine อาหารที่ปรุงอย่างหรูหราสำหรับคนร่ำรวยใช้เวลาในการเตรียมนาน และเมื่อเสิร์ฟก็ต้องตกแต่งอย่างสวยงาม
2. Cuisine Bougeoise อาหารที่ทำกินกันเองในบ้าน แต่ใช้เครื่องปรุงที่มีคุณภาพ
3. Nouvelle Cuisine อาหารแนวใหม่ใช้เครื่องปรุงธรรมชาติแบบดูแลสุขภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจลดน้ำหนัก
4. Cuisine des Province อาหารพื้นบ้านชนบทใช้เนื้อสัตว์และผักนานาชนิด โดยไม่แปรรูปให้วิจิตรพิสดาร
ร้านอาหาร ร้านอาหารในฝรั่งเศสแม้หน้าตาคล้ายๆ กัน แต่อาจเรียกไม่เหมือนกัน ด้วยลักษณะของอาหารที่ขายรวมทั้งเครื่องดื่มด้วย
1. Restaurant คือ ภัตตาคาร มักจะขายอาหารเฉพาะอย่างเช่น อาหารไทย, อาหารเวียดนาม หรืออาหารทะเล รวมทั้งร้านที่ขายเฉพาะอาหารฝรั่งเศสด้วย จะเปิดขายอาหารกลางวันถึงประมาณบ่ายสามโมงแล้วปิด จะขายอาหารเย็นอีกครั้งราวหกโมงครึ่งไปจนถึง 4-5 ทุ่ม การสั่งอาหารจะค่อนข้างใช้เวลานาน
2. Brasserie คือ ร้านอาหารที่เปิดขายตั้งแต่เช้าจรดเย็นโดยไม่มีเวลาหยุดพัก และมีอาหารเสิร์ฟทั้งวัน
3. Cafe คือร้านกาแฟ เป็นแหล่งชุมชนของผู้คนในละแวกนั้น จะเสิร์ฟอาหารแบบง่ายๆ อาทิ แซนวิช หรือ ครัวซอง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นกาแฟ หรือเครื่องดื่มอื่นๆ
4. Salon de The เป็นภาคที่หรูหราของคาเฟ่ เสิร์ฟอาหารเบาๆ พวกสลัด หรือ แซนวิช และมีขนมอบ ขนมหวาน เครป และไอศกรีมให้รับประทาน ส่วนใหญ่จะเปิดสายๆถึงหัวค่ำ
5. Boulandgerie หรือร้านขายขนมปัง สดใหม่น่ารับประทาน จะเปิดแต่เช้าและปิดตอนใกล้ค่ำ
6. Patisserie ร้านขายขนมอบนานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นเพสตรี เอแคลร์ หรือครัวซอง บางร้านมีโต๊ะวางไว้เผื่อลูกค้าจะนั่งในร้าน และมีชา กาแฟเสิร์ฟ ด้วย
7. Confiserie หมายถึงร้านที่ขายของหวานจำพวกช็อคโกเลต ลูกกวาด ผลไม้เชื่อม ในบางร้านอาจมีเค้ก พาย ที่แต่งอย่างหน้ารัก สวยงาม และพอคำ
อาหารจานเด็ด หากไปถึงฝรั่งเศสอย่าลืมลิ้มลองอาหารขึ้นชื่อเหล่านี้
1. Fruits de mer คืออาหารทะเลสดๆ ประกอบด้วยกุ้ง หอย และปูหลากชนิดลวกพอสุก จัดวางบนน้ำแข็งเกล็ดในถาดใบโต รับประทานโดยการบีบมะนาว และจิ้มน้ำส้มสายชูใส่หัวหอมซอย ถ้าจะให้ดีต้องกลั้วคอด้วยไวน์ขาว และแนมให้หนักท้องด้วยข้าวไรย์ทาเนย อาหารจานนี้เป็นอาหารเมืองชายทะเลภาคตะวันตก
2. Cog au vin หรือ ไก่อบซอสไวน์แดงใส่หอม และเห็ดดุม เป็นอาหารที่ภัตตาคารแทบทุกแห่งจะต้องบรรจุไว้ในเมนู
3. Soupe a l oignon หรือซุบหัวหอม เป็นอาหารที่สำคัญอีกจานหนึ่ง หอมหัวใหญ่จะถูกหั่นเป็นเส้นบางๆ เคี่ยวจนเกือบเละในน้ำซุปรสเข้ม เมื่อจะเสิร์ฟ จึงลอยขนมปังที่อบร้อนโดยมีเนยแข็งวางอยู่ข้างบน
4. Escargots a la Bourguignonne หอยทากเอสคาร์โกอบจนสุก พอออกจากเตาร้อนๆก็เอาเนยสดที่ผสมเครื่องเทศใส่ลงไปจนเต็มปากหอย รับประทานเรียกน้ำย่อย
5. Pate de foie gras ตับบดปรุงรสด้วยเครื่องเทศ ทำจากตับห่านหรือตับเป็ด หากไม่บดก็อาจเป็นชิ้นๆ ปรุงด้วยเหล้าบรั่นดี
ขนมปัง

ขนมปังของฝรั่งเศสที่เรียกว่า บาแกตต์ (Baquette) มีเอกลักษณ์พิเศษกว่าใคร ด้วยการทำเป็นทรงยาวกว่า 2 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว เวลาทานมักบิออกด้วยมือ หรือฝานออกเป็นชิ้นๆ อีกชนิดที่นิยมคือ ครัวซอง

ขนมหวาน
ขนมหวานที่เป็นที่รู้จักกันดี ได้แก่
1. เครป (Crepe) เป็นเสมือนอาหารว่างมากกว่า พบเห็นทั่วไป ที่ขึ้นชื่อที่สุดคือ เครปซูเซตต์ หรือเครปน้ำตาลใส่น้ำส้มและเหล้า
2. มารองกลาสเซ่ (Marron Glace) หรือเกาลัดเชื่อมหวานสนิม ร้านที่ขายที่ขึ้นชื่อ คือร้าน Fauchon
3. เอแคลร์ (Eclair) ขนมอบใส่ใส้ครีม
ขนมว่าง
เป็นอาหารง่ายที่กินระหว่างมื้อ ที่ขึ้นชื่อก็คือ โคร้ก เมอซิเออร์ (Croque monsieur) ซึ่งเป็นแซนวิชวางแฮมและเนยแข็งไว้ข้างบนแล้วเข้าอบ ถ้าวางไข่ดาวด้วยเรียก โคร้ก มาดาม (Croque madam)
เนยแข็ง

ชนิดของเนยแข็งฝรั่งเศสที่ขึ้นชื่อ อาทิ
1. รอคฟอร์ต (Roquefort) เนยกลิ่นแรงรสจัดมีเส้นสีฟ้าๆอยู่ในเนื้อเนย
2. กามองแบร์ (Camembert) เนยสีขาวนวลเนื้อนิ่ม มีเปลือกสีขาวรอบนอก ซึ่งกินได้ แต่ไม่ค่อยกิน
3. บรี (Brie) เนยสีฟ้า หรือ Blue
ภาษาฝรั่งเศสที่ควรรู้
ไทย ฝรั่งเศส ออกเสียง
สวัสดี (ตอนเช้า) Bonjour บงชู
สวัสดี (ตอนเย็น) Bonsoir บงซัว
ลาก่อน Au revoir โอ (เครอ) วัว
ใช่ Oui หวิ
ไม่ Non น็อง
กรุณา S'll vous pla t ซิล วู เปล
ขอบคุณ Merci แม็ก ซิ
ขอโทษ Pardon ปากดง
Excusez-moi เอกซ์กูเซ มัว
สบายดีหรือ Comment allez-vous กอมมอง ตาเล วู้
คุณชื่อว่าอะไร Comment Vous กอม มอง วู
ฉันชื่อว่า Je m'appelle เชอ มาแปล์ว
ของนี้ราคาเท่าไร C'est combien เซ กง เบียง
ของนี้แพงเกินไป C'est trop cher เช โทรบ์ แชร์
ฉันต้องการซื้อ Je voudrais acheter เชอ วูเดร อะ เชเต้
ห้องน้ำอยู่ไหน Ou est la toillette อู เอ ลา ตัวแลต

วันเสาร์ที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2550

Un mot par jour

acteur / actrice อัก-เตอร์ / อัก-ทริซ(เซอ) นักแสดง

agent de police [n.m.] อะ-ชอง เดอ โป-ลิส(เซอ) เจ้าหน้าที่ตำรวจ

agriculteur / agricultrice อะ-กริ-กืล-เตอร์์ / อะ-กริ-กืล-ทริซ(เซอ) เกษตรกร